
Shell พร้อมกับตัวแทนผู้บริหารจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรัฐ และเอกชน ต่างก็เดินทางมาเข้ารวมในงานสัมมนา Shell Forum ปี 2019 จัดขึ้นเพื่อเป็นงานในการแลกเปลี่ยนแนวทาง เพื่อที่จะนำมาใช้ในการสร้างพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน รวมถึงแหล่งพลังงานในอนาคตของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีความต้องการที่จะส่งเสริมให้ทุนคน ทุกภาคส่วน ช่วยกันมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยคาร์บอน ที่ทำให้เกิดวิกฤติโลกร้อน
โดยงานนี้ประธานบริษัทเชลล์ คุณอัษฎา หะรินสุต ได้ออกมาพูดให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญด้านพลังงาน ว่าพลังงานสามารถเป็นได้ทั้งสิ่งที่สร้างสรรค์ และสิ่งที่อันตรายในเวลาเดียวกัน แต่หากเราเลือกที่จะเปลี่ยนผ่านพลังงาน ลำพังแค่บริษัทเดียวคงจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ เรื่องนี้จำเป็นจำต้องช่วยเหลือ และสนับสนุนกันในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน
แนวทางที่ Shell ได้นำมาเสนอในงาน
ภายในงาน Shell ได้ออกมานำเสนอแนวทางที่ได้เริ่มปฏิบัติไปแล้ว พร้อมกับออกมาชี้แนะ รวมถึงรายงานผลลัพธ์น่าพึงพอใจ สำหรับไว้ใช้เป็นแนวทางให้กับผู้ที่ประกอบการอื่นๆ ที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับบริษัท เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับยุค 4.0 ลองดูแนวทางที่พวกเขาได้นำร่องกันไปแล้ว 3 อย่าง ประกอบไปด้วย
1.พลังงานที่มีประสิทธิภาพ (Energy efficient) เชลล์ เป็นหนึ่งในผู้ที่นำแนวคิดพลังงานสะอาดมาปรับใช้ ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าว เช่น น้ำมันเชลล์ วี เพาเวอร์ หรือ น้ำมันหล่อลื่น ต่างก็เป็นผลิตผลจากนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้งาน เป็นการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกร
2.พันธกิจเพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน (Alleviate global warming) บริษัทได้ดำเนินการกิจกรรมในการลดความการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ทางโรงงานยังได้นำแผงพลังงานโซลาร์เซล์มาติดตั้ง รวมถึงในปั้มน้ำมันที่เปิดให้บริการจำนวนหนึ่ง และยังคงให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอน โดยยังให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการสนับสนุนแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในอนาคต
3.ส่งเสริมศักยภาพและการมีส่วนร่วมของผู้คน (Enhance the potential of people) ความรู้เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ต่างอะไรจากพลังงานที่ขับเคลื่อนอุปกรณ์ไฟฟ้า รถยนต์ หรือเครื่องปรับอากาศ ด้วยการเน้นส่งเสริมองค์ความรูปแบบ STEM ที่เป็นการผนวกหัวข้อการเรียนรู้ด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน โดยเน้นในส่วนของความรู้ที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนได้นำความรู้มาทดลองใช้จริง มั่นใจได้ว่าความรู้ทั้งหลายจะสามารำเอามาใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
เห็นได้ชัดว่าพลังงานมีความสำคัญมากแค่ไหน นับตั้งแต่ที่เราเริ่มมีพลังงานใช้ โลกก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันมันก็ทำลายตัวเอาเองอย่างช้าๆ การเปลี่ยนผ่านพลังงานจึงเป็นวิถีที่จะเข้ามาต่อชีวิตของเราได้ เพื่อที่ลูกหลานของเราจะได้มีโลกที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียว มีอากาศบริสุทธิ์ให้หายใจ แม้แต่ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่ในอนาคตรถยนต์ก็อาจแปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด